เกี่ยวกับบทเรียน
การผลิตไฟฟ้าต้องอาศัยแหล่งพลังงานธรรมชาติที่มีจำกัด และพลังงานหมุนเวียน ซึ่งแหล่งพลังงานที่มีจํากัดนี้ เมื่อใช้แล้วจะค่อย ๆ หมดไป ดังนั้น เราจึงต้องเรียนรู้วิธีการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด
การใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดทำได้หลายวิธี เช่น
- เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานเช่นมีฉลากเบอร์ 5 กำกับ
- ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน
- ใช้ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น
- สร้างบ้านด้วยวัสดุที่เป็นฉนวนกันความร้อนได้ดีให้กับหลังคาและผนังบ้านหรือปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงาแก่ตัวบ้าน เพื่อลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นพัดลม เครื่องปรับอากาศ
การใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัยทำได้หลายวิธี เช่น
- ตรวจสอบไฟฟ้าเต้ารับและปลั๊กไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งที่ใช้ว่าชำรุดหรือไม่ หากชำรุดควรซ่อมแซมให้เรียบร้อย และตรวจสอบให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งา
- เลี่ยงการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปใช้ในบริเวณที่ชื้นแฉะ ฝนสาดถึง หรือเปียกน้ำ เพราะจะทำให้ไฟฟ้าดูดได้เมื่อเปิดใช้งาน
- เมื่อจะเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ต้องดูให้แน่ใจว่าไม่ได้เปิดสวิตช์เครื่องอยู่ และเมื่อเลิกใช้งาน ให้ปิดสวิตช์ที่เครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนแล้วจึงถอดปลั๊ก
- อย่าวางเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อนไว้ใกล้วัสดุติดไฟ เช่น วางโคมไฟไว้ใกล้ผ้าม่าน
- อย่าแต่ะต้องอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในขณะที่ตัวเปียก
- เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเปลือกหุ้มภายนอกทำด้วยโลหะทุกชนิด เช่น ตู้เย็น หม้อหุงข้าว เตาไมโครเวฟ เตารีด เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น ต้องติดตั้งสายดินเพื่อป้องกันไฟฟ้าดูด หากมีไฟฟ้ารั่ว
- อย่านำสิ่งของวางบนเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือใช้ผ้าคลุมหรือวางเครื่องใช้ไฟฟ้าในที่อับอากาศ เพราะจะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ชำรุดง่าย กินไฟมาก และอาจเกิดไฟไหม้ได้
- อย่าเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดที่เต้ารับอันเดียว เพราะอาจจะเป็นการใช้ไฟฟ้าเกินกำลังและอาจเกิดไฟไหม้ได้
- เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามาก เช่น หม้อหุงข้าว เครื่องซักผ้า เตาไฟฟ้า ควรเสียบที่เต้ารับเดี่ยวหลีกเลี่ยงการใช้เต้ารับร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น
- อย่าใช้สายไฟฟ้าลอดใต้เสื่อหรือพรมหรือปล่อยให้ของหนักทับสายไฟฟ้า เพราะอาจทำให้ส่วนที่หุ้มสายไฟแตกชำรุด เกิดไฟฟ้ารั่วได้
- ควรให้ผู้มีความรู้เรื่องไฟฟ้าติดตั้งหรือซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้ง