เนื้อหาของคอร์ส
หน่วยที่ 3 งานเกษตร
1. การปลูกผักสวนครัว 2. ประเภทของผักสวนครัว 3. หลักการปลูกผักสวนครัวในภาชนะ 4. วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือทึ่ใช้ปลูกผักสวนครัวในภาชนะ
วิชาการงานอาชีพ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (ง13101) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
เกี่ยวกับบทเรียน

                     1) ความหมายและประเภทของผักสวนครัว

ผัก หมายถึง พืชที่ปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากใบ ราก ดอก หัว หรือลำตันเป็นอาหาร ผักที่นำมาใช้เป็นอาหาร นี้สามารถจะรับประทานสดๆ หรือทำให้สุก เช่น แกง ต้ม นึ่ง ตุ๋น เป็นต้น  พืชผักเป็นอาหารที่คนต้องรับประทานอยู่เป็นประจำ ถ้ามีเวลาและมีที่ว่างเหลืออยู่ที่บ้าน หรือโรงเรียน ควรปลูกพืชผักไว้สำหรับรับประทานเอง เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าจ่ายของ ครอบครัวแล้ว ยังทำให้ได้รับประทานผักสดที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและถ้าปลูกจำนวนมากก็ สามารถนำไปจำหน่ายหารายได้ให้กับครอบครัวได้ด้วย พืชผักที่ปลูกสำหรับรับประทานเองที่บ้าน หรือโรงเรียนตามลักษณะที่กล่าวเรียกว่า พืชผักสวนครัว  

                      2) ประเภทผักสวนครัว ผักสวนครัวแบ่งตามส่วนที่นำมาเป็นอาหารได้ ดังนี้

                           2.1 ผักสวนครัวที่ใช้ผลและฝักเป็นอาหาร เช่น มะเขือเทศ พริก ฟักทอง มะระ ฯลฯ

                           2.2 ผักสวนครัวที่ใช้ราก ลำต้นใต้ดิน และหัวเป็นอาหาร เช่น หอมหัวใหญ่ แคร์รอต เผือก มัน ไช้เท้า 

                           2.3 ผักสวนครัวที่ใช้ใบและลำต้นเป็นอาหาร เช่น สะระแหน่ ผักบุ้ง กะหล่ำปลี

                           2.4 ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร เช่น ดอกโสน ดอกกุยช่าย ดอกขจร ฯลฯ

                           2.5 ผักสวนครัวที่ใช้ก้านใบเป็นอาหาร เช่น บัวสาย คูน ต้นหอม ฯลฯ

                     3) หลักการปลูกผักสวนครัวในภาชนะ

                           3.1 การเตรียมภาชนะ

                                  ภาชนะที่ใช้ในการปลูกผักสวนครัว ควรใช้ภาชนะที่ชำรุดหรือแตกหักเล็กน้อยที่ไม่สามารถใช้งานอื่นได้อีกแล้ว เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อภาชนะมาปลูกผัก การเลือกภาชนะที่มีขนาดไม่เล็กจนเกินไป ถ้าภาชนะไม่มีรูที่ก้นภาชนะให้เจาะรูที่ก้นภาชนะก่อนเพื่อไม่ให้น้ำขัง

                           3.2 การเตรียมพันธ์ุพืช

                                   เมล็ดที่ใช้ในการปลูกควรเป็นเมล็ดแก่จัดที่ตากจนแห้งแล้วหากใช้การปักชำควรเลือกกิีงที่มีความแข็งแรง

                           3.3 การปลูก

                                  ควรปลูกพืชผักสวนครัวตามฤดูกาล เพราะจะทำให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพ และเนื่องจากพืชผักสวนครัวแต่ละชนิดมีวิธีการปลูกแตกต่างกัน ก่อนปลูกจึงต้องศึกษารายละเอียดการปลูกพืชผักสวนครัวแต่ละชนิดให้เข้าใจ

                           3.4 การดูแลรักษา

                                   ควรให้น้ำ ให้ปุ๋ยอย่างเพียงพอ กำจัดวัชพืชและศัตรูพืชเป็นประจำ

                           3.5 การเก็บเกี่ยว

                                  ควรเก็บเกี่ยวเมื่ออายุเหมาะสม ตามจุดประสงค์ของการนำไปใช้ประโยชน์ เช่น ผักชี สะระแหน่ ที่จะนำไปตกแต่งอาหาร ให้เด็ดแต่พอใช้ ส่วนที่เหลือสามารถเจริญเติบโตต่อไป

                     4) วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ปลูกผักสวนครัวในภาชนะ

                            การปลูกผักสวนครัวในภาชนะต้องใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ ดังนี้

                           4.1 ดินร่วนหรือดินปนทราย

                           ใช้สำหรับให้รากพืชยึดเกาะ เพื่อเจริญเติบโต

                           4.2 แกลบดิน แกลบเผาหรือถ่านแกลบ ใช้ผสมดิน เพื่อทำให้ดินร่วนซุย น้ำและอากาศผ่านได้สะดวก รากพืชชอนไชได้ง่าย

                           4.3 ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ใช้เพิ่มธาตุอาหารพืชในดิน

                           4.4 ปูนขาว ใช้ปรับสภาพดินที่เป็นกรดให้เหมาะสมต่อการปลูกผักสวนครัวในภาชนะ

                           4.5 ภาชนะ ใช้สำหรับใส่ดินปลูกผักสวนครัว เช่น กะละมังพลาสติก ถังน้ำ ขันน้ำ ยางรถยนต์ บลอกซีเมนต์ กาบมะพร้าว กระบะเปลือกไม้ กระถางดินเผา

                           4.6 ช้อนปลูก ใช้ขุดย้ายต้นกล้า ขุดหลุมปลูกพืช ตักดิน ตักปุ๋ย

                           4.7 ส้อมพรวน ใช้พรวนดินให้ร่วนซุย

                           4.8 บัวรดน้ำ ใช้รดน้ำผักสวนครัวในภาชนะ

                     5) การดูแลรักษาผักสวนครัวในภาชนะ

                           การปฏิบัติดูแลรักษาผักสวนครัวที่ปลูกอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผักสวนครัวเจริญเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตคุณภาพดี เช่น มีลำต้น ใบ หัว ที่สมบูรณ์ เหมาะต่อการนำไปใช้ประโยชน์

                           การปฏิบัติดูแลบำรุงรักษาพืชที่ปลูกในภาชนะมีวิธีการ ดังนี้

                           1. การรดน้ำ ควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยรดแต่พอดี ไม่แฉะเกินไป

                           2. การพรวนดิน ควรพรวนดินทุก 10 – 15 วัน เพื่อช่วยให้ดินร่วนโปร่ง ทำให้น้ำ อากาศ และปุ๋ยเข้าสู่ต้นพืชได้สะดวก พร้อมกับกำจัดวัชพืชไปด้วย

                           3. การใส่ปุ๋ย ควรใส่เดือนละ 2 ครั้ว เป็นการให้อาหารแก่พืช ทำให้พืชเจริญเติบโตเร็ว ปุ๋ยที่ควรใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋นคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยน้ำชีวภาพ ฯลฯ

                          4. การป้องกันปละกำจัดศัตรูพืช ศัตรูพืชที่สำคัญ คือ แมลง หนอนต่างๆ ควรใช้สารสกัดจากพืชสมุนไพรื ฉีดป้องกันรักษาทุก 3 – 5วัน ซึ่งการใช้สารสกัดจากพืชสมุนไพรจะช่วยให้เราปลอดภัยจากสารพิษและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

                     6) ประโยชน์ของการปลูกผักสวนครัวในภาชนะ

                            1. เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชนื

                            2. เป็นการประหยัดรายจ่ายของครอบครัว

                            3. สามารถนำผลผลิตที่ได้มาใช้ประกอบอาหารรับประทานในครอบครัว

                            4. ถ้าปลูกเป็นจำนวนมากสามารถนำไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้

ไฟล์ตัวอย่าง
ใบงานที่ 1 การปลูกผักสวนครัว.docx
ขนาด: 213.28 KB
การนำเสนอการงานป.3 การปลูกผักสวนครัว.pptx
ขนาด: 3.01 MB